ให้ผสมน้ำตั้งไว้ 8 ชั่วโมง ถ้าสังเกตเห็นการตกตะกอนอยู่ที่ก้นแก้ว แสดงว่าไม่ใช่ ของแท้ อาจมีส่วนผสมของสารประกอบ เพราะคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100% เต็ม ถ้าเรา ผสมทิ้งไว้ สามารถรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำบริสุทธิ์ ได้โดยไม่ต้องเขย่า คลอโรฟิลล์ จะละลายไปในน้ำได้โดยอัตโนมัติ จนเต็มหมดทั้งภาชนะที่บรรจุ
คำถามที่พบบ่อยที่สุดของคลอโรฟิลล์แท้ 100 %
1. ทำไมมนุษย์เป็นสัตว์กินพืช
โครงสร้างร่างกายของมนุษย์คล้ายสัตว์กินพืชจำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ทีมีฟันแหลมคมพอที่จะกัดกินและฉีกเนื้อหนังกระดูกของ สัตว์ได้ ลำไส้ของมนุษย์ยาวมากเป็นเหมือนลักษณะของสัตว์กินพืชชั้นสูงส่วนสัตว์กิน เนื้อจะมีโครงสร้างที่มีการขับถ่ายที่เร็วที่สุดเหมือนกับมนุษย์
2. เพราะอะไรเนื้อสัตว์ จึงอันตราย
ในเนื้อสัตว์ มีไขมันสัตว์จะมีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรรอลสูง ซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดโรคหลอดเลือดอุดตันและหลอดเหลือผนังแข็งตัวและโรค หัวใจ คนส่วนใหญ่ที่ชอบรับประทานเนื้อสัตว์มักจะเป็นโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน กันมาก
3. คลอโรฟิลล์ จากต้นอัลฟัลฟ่าดียังไง
คลอโรฟิลล์ คือ สารที่เป็นรงควัตถุสีเขียว ที่มีอยู่ในพืชทั่วไปแต่สำหรับต้นอัลฟัลฟาจะมีคอลโรฟิลล์ปริมาณที่สูงกว่า พืชชนิดอื่น ๆ หลายเท่าตัวซึ่งอุดมด้วยโภชนาการ ได้วิเคราะห์แล้วพืชอาหารแทบทุกชนิดมากกว่า 6,000 ชนิด รวมถึงสมุนไพรต่าง ๆ จากเมล็ด ใบ ต้น ของพืชเหล่านั้นในที่สุดก็พบว่า ต้นอัลฟัลฟ่า นั้นคือ พืชอาหารในฝัน เป็นพืชตะกูลถั่ว
4. คลอโรฟิลล์ดีต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร
คลอโรฟิลล์เป็นอะตอมของธาตุแมกนีเซียม ส่วนของฮีโมโกลบิลเป็นอะตอมของธาตุเหล็กซึ่งมีหน้าที่จับออกซิเจนเพื่อพาไป เลี้ยงเนื้อเยื่อหรือเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเพื่อสร้างพลังงานเพราะว่าปกติร่างกายมนุษย์เม็ดเลือดจะถูกทำลาย ตลอดเวลาประมาณ 2 – 2.5 ล้านเซลล์ต่อวัน คลอโรฟิลล์จะช่วยชำระล้าง ขจัดสารพิษและสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย รักษาสมดุล บำรุงรักษา คือเสริมบำรุงสุขภาพของเราให้ดีขึ้น ดังคำกล่าวที่ว่า “ เลือดพืชมีสีเขียว เลือดมนุษย์มีสีแดง มนุษย์จะมีสุขภาพที่ดีได้เลือดจะต้องไม่มีสารพิษ จงล้างสารพิษด้วยสีเขียว”
5. ผู้ที่ได้รับประโยชน์จาก คลอโรฟิลล์ บริสุทธิ์ 100 %
- ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียอยู่เสมอ เหนื่อยง่าย ผอมซูบซีด ปากเขียวคล้ำ
- ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะพักฟื้นหลังผ่าตัดที่มีการสูญเสียเลือดมาก สตรีหลังมีประจำเดือน
- ผู้ที่ต้องการกำลังงานจากก๊าชออกซิเจนมาก เช่น นักกีฬา หรือผู้ออกกำลังกาย
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติจากการเสื่อมของร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการป้องกันภาวะความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ หรือการขับสารพิษที่คาดว่าจะมีการสะสมในร่างกาย
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือดสูง เส้นเลือดตีบ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันต่ำ หน้ามืดบ่อย อึดอัดหน้าอก หายใจไม่เต็มอิ่ม ใจสั่น
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเลือด เช่น เกล็ดเลือดต่ำ เลือดจาง ปรับสมดุลของเลือด ล้างสารพิษ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบน้ำตาลในในเลือดสูง สำหรับกรณีผู้ป่วย ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน
- มีอาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัว
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับท้องผูกและระบบขับถ่าย
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดท้องเนื่องจากโรคกระเพาะมีลมในกระเพาะ สภาวะกรดไหลย้อน
6. คลอโรฟิลล์ทำให้ ผิวดีจริงหรือ
เมื่อเลือดในร่างกายดีขึ้นก็จะส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย จึงทำให้ผิวพรรณดีขึ้น ดังนั้นเรามักเห็นผู้คนหรือว่าดาราหันมาดื่มน้ำคลอโรฟิลล์ หรือน้ำสีเขียวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากทุกคนต้องการเก็บรักษาผิวพรรณเยาว์วัยของตนเอง ผิวพรรณสดใส ให้ทำให้จิตใจสดชื่นด้วยแลดูอ่อนวัยอยู่เสมอ
7. คลอโรฟิลล์ถ้าดื่มติดกันเป็นเวลานาน ๆ มีโทษหรือไม่
จากการทดสอบพบว่า ไม่มีสารอันตรายในน้ำดื่มคลอโรฟิลล์ซึ่งไม่มีโทษต่อร่างกายหรือผู้บริโภคแต่ ประการใด และการที่ผู้ใช้ ใช้บริโภคเป็นเวลานาน ๆ ก็ไม่เคยเห็นใครเป็นอะไร แต่กลับมีผลตรงกันข้ามกลับทำให้ร่างกายของเราดีขึ้นอย่างไม่หน้าเชื่อ
8. คลอโรฟิลล์รักษาโรคได้หรือไม่
คลอโรฟิลล์ไม่ใช้ยารักษาโรคแต่ทางการแพทย์ให้ คลอโรฟิลล์เป็นเหมือนตัวยาชนิดหนึ่งที่สามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยของโรคต่าง ๆ ได้เพราะคนไทยส่วนใหญ่ก็นิยมหันมาบริโภคคลอโรฟิลล์แทนยารักษาโรคเพื่อทดแทน การบริโภคสารอาหารจากพืชผัก ซึ่งตรงกับปรัชญาของ ศาสตราจารย์ เอห์เรต ที่ว่า “ธรรมชาติอย่างเดียวเท่านั้น เป็นยารักษาโรคได้ ”
9. ถ้าดื่มคลอโรฟิลล์แล้วทำไมร่างกายถึงป่วยหนักขึ้น
อาการที่เกิดขึ้นเป็นปฎิกิริยาตอบรับของร่างกายเพื่อปรับสภาพกับคลอโรฟิลล์ ที่ดื่มเข้าไปเกิดขึ้นพร้อมกัน เช่น เจ็บปวดในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทุกข์ทรมานมากกว่าเดิมซึ่งเป็นในลักษณะปฎิกิริยาในการโต้ตอบบำบัด หลังจากดื่มไปได้ซักระยะหนึ่งอาการเหล่านั้นก็จะบรรเทาลงแล้วค่อย ๆ หายไป และสุขภาพก็จะเริ่มดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น
10. เราควรดื่มต่อไปหรือไม่
เมื่อร่างกายของเราแข็งแรงดีแล็ก็สามารถหยุดดื่มได้ แต่ท่านต้องไม่ได้รับสารพิษกลับมาสู่ร่างกายของท่านอีก และควรหลีกเลี่ยงสารเคมีตกค้างในอาหารรวมถึงอ๊อกซิเจนในอากาศเสียที่มีแต่ มลพิษ
- เนื้อวัวที่เกิดจากการเลี้ยงโดยใช้ สารดีอีเอส ซึ่งเป็นตัวก่อมะเร็ง
- เนื้อหมูที่เกิดจากการเลี้ยงโดยใช้ เลนดอน ซัลบูทามอล
- เนื้อไก่ที่เกิดจากการเลี้ยงโดยใช้ฮอร์โมนฝังในหัวไก่
- ไม่ควรบริโภคเนื้อสัตว์ที่ใส่สารฟอร์มาลีน
- ไม่ควรบริโภคผักที่ปลูกโดยใช้ยาฆ่าแมลง
- งดการใช้ผงชูรสในการปรุงอาหาร
- งดการดื่มน้ำอัดลม น้ำตาลทรายขาวที่ผสมผงฟอกขาว ไม่ใช้ยาปฎิติชีวนะโดยไม่จำเป็น
ถ้าท่านยังไม่งดการบริโภคดังที่กล่าวมาข้างต้น
ท่านก็จะกลับไปเจ็บป่วยเนื่องจากการทรุดโทรมของร่างกายอีกครั้ง
ทำไมเราจึงป่วย?
สาเหตุที่เราป่วยก็คือ “ออกซิเจนไม่บริสุทธิ์” ถ้าเราทำเซลล์ให้บริสุทธิ ก็คือ ออกซิเจนบริสุทธิ์ แล้วเราก็จะไม่ป่วยเลย ออกซิเจนบริสุทธิ์ก็มาจากร่างกายคนเรา ที่มีออกซิเจนอยู่ถึง 65% ถ้าเราหายใจเอาก๊าชออกซิเจนเข้าไปในร่างกายแต่ใน อากาศเป็นพิษ ออกซิเจนจากอากาศไม่บริสุทธิ์ก็จะสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ และอีกอย่างหนึ่งคือการบริโภคอาหาร เมื่อซิมอาหารเข้าไปในเส้นเลือดออกซิเจนที่ ไม่บริสุทธิ์ซึ่งอยู่ในอาหารก็ จะเข้าสู่เซลล์ของร่างกายเรา จึงทำให้เราป่วย เพราะ อาหารไม่บริสุทธิ์
คลอโรฟิลล์ช่วยคุณได้อย่างไร
จากประสบการณ์ของผู้ใช้ ผู้บริโภคจากทั่วโลก ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจของคลอโรฟิลล์ดังนี้
- ทำให้ร่างกายสดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย
- ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ
- ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
- ทำให้อาการของคนที่เป็นโรคภูมแพ้ แพ้อากาศ ผื่นลมพิษ ทุเลาลง
- ขับกรดจากข้อต่อต่าง ๆ ทำให้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวทุเลาลง
- ขับสารพิษออกจากร่างกาย สารตกค้างของยาปฎิชีวนะ สารเคมีตกค้างในอาหาร ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดี สุขภาพแข็งแรง สดชื่นขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดแดง
- ทำให้ระเบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น
- ป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้า
- บรรเทาอาการชา บวมและเส้นเลือดขอดให้ทุเลาลงได้
- บรรเทาอาการปวดศรีษะทั่วไป และปวดศรีษะไมเกรนได้
- แก้ปัญหาสิวผ้า ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ข้อมูลข้างต้นเรียบเรียงจาก หนงสือและข้อเขียนของ
- ดร.ฮาวเวิร์ด ไปเปอร์ (DR.HOWARD PEIPER)
คลอโรฟิลล์จากต้นอัลฟัลฟ่า
คือ การสกัดและวิเคราะห์ “คลอโรฟิลล์” จากพืชกว่า 6,000 ชนิด พบว่าพืชที่ให้ “คลอโรฟิลล์ “ ที่บริสุทธิ์และดีที่สุดคือ อัลฟัลฟ่า ( ALFALFA) หรือราชาแห่งอาหารทั้งมวล ประโยชน์ของอัลฟัลฟ่า สามารถใช้บำบัดอาการปวดบวมและอักเสบต่าง ๆ เช่น ปวดข้อ จนกระทั่งถึงความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร สามารถช่วยให้เลือดสะอาดขึ้น อัลฟัลฟ่า เป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นถึง 8 ชนิด ซึ่งได้แก่ กรดอะมิโนไอโซลิวซีน , ลิวซีน , ไลซีน , เมไธโอนีน, พีนิลอะลานีน เทรโอนีน,ทริปโตฟานและวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่ในอัลฟัลฟ่ายังมี วิตามินเอ,บี6, บี12,ดี,อีและเค รวมทั้งเกลือแร่ เช่น ฟอสฟอรัส ,โปรแตสเซียม , แคลเซียม, สังกะสี,เซเลเนียม และ แมกนีเซียม เป็นต้น